วันอาทิตย์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ธรรมคำสอน พระหลวงปู่ดี ฉันโน


อนุศาสนะคำสอนของ
พระอาจารย์ดี ฉฺนโน
อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าสุนทราราม บ้านกุดแห่ อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร

เรื่องที่ 1 พระพุทธศาสนา

          รากเหง้าเค้ามูลของศาสนานั้น ได้แก่ พระรัตนตรัย แก้วอันประเสริฐ 3 ประการ คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ทั้งสามรัตนตรัยนี้มีความสำคัญยิ่ง เพราะเป็นอุบัติขึ้นแห่งพุทธศาสนา คือ
          1. พระพุทธเจ้า เป็นผู้ตรัสรู้ธรรมของจริงด้วยพระองค์เองโดยชอบ และได้ประสิทธิ์ประสาทประกาศพระธรรมคำสอน อันเป็นหลักฐานทนทานต่อการพิสูจน์ทุกอย่าง ออกมาให้พุทธบริษัทฟังอย่างซาบซึ้ง
          2. พระธรรม พระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้นั้นเป็นของจริง
ของแท้ ของไม่ตาย เป็นของไม่เสื่อมสลาย ไม่สูญหายจากผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม เป็นของไม่มีกาลเวลา พระพุทธเจ้าจะเกิดหรือไม่ก็ตาย แต่พระธรรมก็ยังคงมีอยู่คู่ฟ้าดิน เป็นธรรมธาตุ ธรรมฐิติ ทรงอยู่ มี 3 ประการ คือ
              กุศล               ส่วนบุญ ความดี
              อกุศล             ส่วนบาป ความชั่ว
              อพยากฤต     ความกลาง ๆ
              เมื่อสัตว์โลกดำเนินไปในธรรมส่วนใด ก็จะได้รับผลจริงตามธรรมส่วนนั้นอันเป็นหลักฐานพยานปรากฏให้เห็นอยู่ในโลกทั่ว ๆ ไปแล้ว มีทั้งสุข ทั้งทุกข์ อันเป็นมาแล้วในอดีต และปัจจุบัน และจักเป็นไปในอนาคต ถ้าไม่มีพระธรรมแล้ว ความเป็นพระพุทธเจ้าก็จะไม่มี ความเป็นพระสงฆ์สาวกก็จะมีมาไม่ได้เหมือนกัน เมื่อพระธรรมปรากฏดังกล่าวแล้ว จึงเป็นเหตุให้อุบัติขึ้นแห่งพระพุทธศาสนาและพระสงฆ์สาวก ดังนั้นพระธรรมของจริงแต่ละเรื่องจึงนับว่าเป็นรากเหง้าเค้ามูลอันสำคัญยิ่งของพระศาสนาประการหนึ่ง
          2. พระสงฆ์เป็นสาวกของพระพุทธเจ้า ได้ปฏบัติตามคำสั่งสอนจนได้สำเร็จมรรคผลนิพพานสมความมุ่งหมายตามข้้นตามสมควรแก่การปฏิบัติ อันสิ่งแสดงให้เห็นเป็นประจักษ์พยานทั้งสองฝ่าย คือแสดงว่าพระพุทธเจ้าเป็นผู้ตรัสรู้จริง ประเสริฐจริง สมความเทิดทูนของสัตว์โลกทั้งหลาย พระธรรมที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ก็สุทธิ์จริง ประกาศออกมาให้สงฆ์สาวกปฏิบัติตาม สำเร็จได้จริงด้วย ถ้าไม่มีพระสงฆ์สาวกผู้ปฏบัติดี ปฏิบัติตรง ปฏิบัติถูกและชอบแล้ว พระศาสนา ธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์คงไม่ปรากฎมีมาถึงปานนี้.








VDO ประวัติ - ปฏิปทาธรรม

"พระหลวงปู่ดี ฉันโน"




ชีวประวัติโดยย่อของ

พระอาจารย์ดี ฉันโน

โดย...พระหลวงปู่ถิร ฐิตธัมโม


บรรลุธรรม

          เมื่อได้ปฏิบัติธรรม และรู้แนวทางจากพระอาจารย์มั่นแล้ว
พระอาจารย์ดี ฉันโน ก็ได้ปลีกตัวไปจำพรรษาอยู่ที่วัดบ้านน้อย
อำเภอวาริช มีพระสงฆ์ พระน้อย และพระอาจารย์ดี 3 รูป
     ในกลางพรรษานั้น พระสงฆ์และพระน้อยได้ป่วยเป็นโรคไข้ป่า (มาลาเรีย) ตายทั้ง 2 รูป เหลือท่านเพียงรูปเดียว กับโยม 1 คน ตอนออกพรรษาแล้วในราวเดือน 3 ปีนั้น ท่านอาจารย์ดีได้ป่วยเป็นไข้อย่างหนัก ชาวบ้านได้ช่วยกันเอาท่านใส่เกวียนเดินทางไปหาหมอที่อำเภอ พอถึงกลางทาง ท่านอาจารย์ดีก็ได้สิ้นใจตาย ชาวบ้านหยุดเกวียนจะนำศพของท่านกลับคืนวัด
นานประมาณ 1 ชั่วโมง ท่านอาจารย์ดีก็ฟื้นลุกขึ้นมานั่ง เห็นญาติโยมนั่งร้องไห้กันอยู่รอบเกวียนจึงถามโยมว่า "อาตมาเป็นอะไรหรือ" โยมจึงตอบว่า "ท่านตายไปตั้งนาน ดีใจมากที่ท่านคืนมาครั้งนี้ ท่านจึงได้เล่าให้ญาติโยมฟังว่า "อาตมาได้ยินในหูว่ามีหมอพวกหนึ่งมาฉีดยาเข้าทางปาก พอหมอฉีดยาปรากฏว่าเย็นไปทั่วท้อง และฟื้นขึ้นนี้แหละ" แต่ทุกคนก็ยืนยันว่า "ไม่มีหมอมาฉีดยาให้" จึงเป็นสิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง จึงได้พากันกลับวัด
และท่านก็แข็งแรงเป็นปกติ.


พระอินทราธิราชลงมาบอกยาอาจารย์ดี











พระหลวงปู่กินรี จนฺทิโย